วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ข่าวดีที่สุดในรอบปี ตัวเล็กแต่ข่าวใหญ่!

ผมได้รับจดหมายจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เมื่อ 3-4 วันมานี้เอง

จดหมายลงวันที่ 18 ธันวาคม 2544 ส่งข่าว “ประกาศกรมอนามัย เรื่องข้อปฏิบัติการควบคุมยุง” ประกาศนี้ ท่านอธิบดีกรมอนามัย ดร.ภักดี โพธิศิริ ได้ลงนามประกาศดังกล่าวเรียบร้อยไปแล้ว และขั้นตอนต่อไป กำลังเตรียมการจัดทำโครงการ ควบคุมยุงทั่วประเทศ จะดำเนินการอย่างจริงจัง ในปีที่ 1 ระหว่างมกราคม-ธันวาคม 2545 นี้

นี่แหละครับคือข่าวดีที่สุดในรอบปี ที่ผมได้ขึ้นหัวข้อไว้ในคอลัมน์นี้ ในอาทิตย์นี้ซึ่งตรงกับวัน ขึ้นปีใหม่ของเราพอดี

ผมดีใจที่สุดในการเขียนคอลัมน์นี้ เมื่อได้เสนอแนะนำเรื่องเกี่ยวกับราชการ ก็ได้รับการตอบสนองทันที เฉพาะเดือนนี้ได้เขียนเรื่องเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชน 2 เรื่อง ก็ได้รับการตอบสนองทันที เรื่องแรก คือเรื่อง การบรรทุกเนื้อหมูแบบมักง่ายจากพวกพ่อค้านครปฐม และการนำหมาไปฆ่าเพื่อ นำเนื้อหมามาจำหน่าย เรื่องเนื้อหมูจากนครปฐม ยังไม่ทราบว่าได้มีการปฏิบัติจากทางราชการ อย่างไรบ้าง ยังเฉยอยู่

แต่เรื่องเนื้อหมาได้ทราบว่ามีการปฏิบัติการไปแล้ว คือเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจจับเนื้อหมา ซึ่งใส่รถมาขายในกรุงเทพฯ หวังว่าคงจะเป็นการปราบปรามอย่างถาวรแบบถอนรากถอนโคน ต่อไปนะครับ คงไม่ใช่แบบไฟไหม้ฟางอย่างที่เคยๆ ทำกันมาแล้ว อะไรก็ตามเถิดครับ ถ้าเป็นเรื่องระหว่างพ่อค้ากับเจ้าหน้าที่ทางราชการแล้วละก็ มีอะไรยื่นกันไปยื่นกันมา เรื่องก็มักจะเงียบกันไปง่ายๆ

เรื่องที่สองก็คือเรื่องของยุงนี่แหละ พอเขียนเรื่องกรุงเทพฯ น่าจะเป็นเมืองสวรรค์ ถ้าเราช่วยกันปราบยุง ให้หมดไปได้ ก็ได้รับทราบจากท่านเจ้าหน้าที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ทันทีว่า เรื่องกำจัดยุงนี้ ทางกรมอนามัยท่านมี โครงการอยู่แล้ว เป็นการประจวบเหมาะ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสัญญาณ ที่ดีสำหรับปีใหม่นี้อย่างเหลือเกินครับ

จดหมายจากกรมอนามัยนี้ มาจากคุณ สมศักดิ์ ชัยพิพัฒน์ หัวหน้า ฝ่ายพัฒนาอนามัยสิ่ง แวดล้อมชุมชนและเมือง ท่านเขียนลงท้ายมาด้วยว่า ขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกัน เพื่อทำให้ประเทศไทยปลอดยุงต่อไปด้วย

ขอเรียนให้ทางกรมอนามัยทราบด้วยความยินดีว่า ผมขอชูมือสนับสนุนโครงการนี้ให้อย่างเต็มที่เลย ชูให้สองมือด้วยเอ้า นอกจากจะชูมือสนับสนุนแล้ว ผมขอปวารณาตัวไว้เลยนะครับว่า จะเอาตัวผมไปใช้ในเรื่องปราบยุงนี้อย่างไร ผมยินดีรับใช้เต็มที่ครับ

ผมเชื่อว่าโครงการปราบยุงนี้ เป็นโครงการใหญ่ระดับชาติ ไม่ใช่เป็นเรื่องเล็กๆ เหมือนตัวยุงเลย โครงการปราบยุงย่อม จะต้องเกี่ยวข้องโดยตรงกับการกำจัดนํ้าเสีย และกำจัดความสกปรกซึ่งเป็นต้นตอ ของการทำให้เกิดยุง

เมื่อพูดถึงการกำจัดนํ้าเน่าหรือนํ้าเสีย ก็ย่อมต้องเลยไปถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่ใช่เรื่องระดับชาติอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องระดับโลกอีกด้วย

นอกไปจากนั้น เรื่องของยุงซึ่งตัวเล็กๆ แต่ เป็นเรื่องใหญ่ระดับโลกนี้ ยังเป็นเรื่องค้างคาตกค้าง ไม่รู้จบมานานปี เราเคยพูดถึงเรื่องการทำกรุงเทพฯ และเมืองไทยให้เป็นเมืองสวรรค์ ด้วยการกำจัดยุงให้หมดไป แต่ก็เป็นเรื่องของการพูด การคุยกันโก้ๆ อยู่อย่างนั้นแหละ ไม่เคยมีการปฏิบัติหรือมีโครงการระยะยาวให้เห็นพอชื่นใจได้สักที

ผมจึงดีใจอย่างที่สุดที่ได้ทราบว่า กระทรวงสาธารณสุขซึ่งมีคุณหมอ ลือชา วนรัตน์ หัวหน้าสำนักงานวิชาการสาธารณสุข เป็นประธานคณะผู้เชี่ยวชาญ ได้เริ่มโครงการปราบยุง มาแล้วเป็นเวลานานพอสมควร และจะได้เริ่มปฏิบัติตามโครงการนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2545 เป็นต้นไป

ขออนุญาตพูดโดยคร่าวๆ ถึง “ประกาศกรมอนามัย เรื่องข้อปฏิบัติการควบคุมยุง” เสียสักนิดนะครับ

ในประกาศฉบับนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญของคุณหมอลือชา ท่านได้ระบุมาตรการต่างๆ ในการควบคุมตามบ้าน สถานที่ และอาคารสิ่งก่อสร้าง ต่างๆ ไว้โดยละเอียด ท่านได้พูดถึงแม้ก ระทั่งวัตถุสิ่งของ ซึ่งใครๆ อาจจะมองข้ามไปได้ง่ายๆ อย่างเช่น จานหรือถ้วยรองขาตู้ จานรองกระถางต้นไม้ แจกัน ยางรถยนต์เก่าๆ โอ่งนํ้ากินนํ้าใช้เหล่านี้ เป็นต้น

นอกไปจากนั้น ท่านยังได้แนะนำไปถึงการดูแลสถานที่ต่างๆ อาคารสถานศึกษา สถานที่มีการก่อสร้างที่พักอาศัยของคนงาน สถานที่บริเวณรกร้างว่างเปล่าและที่อื่นๆ อีกหลายแห่งอีกด้วย

และดูเหมือนจะมีมาตรการของกรมอนามัย ในการสนับสนุนพ่นสารพิษเคมี กำจัดยุงหรือกำจัดลูกนํ้าด้วย (ข้อนี้ผมยังไม่แน่ใจนะครับ เพราะคุณสมศักดิ์ ชัย-พิพัฒน์ ท่านแจ้งในจดหมายวันที่ 18 ธันวาคม 44 ซึ่งจดหมายฉบับนี้ ผมไม่ได้รับเลยครับ ไม่ทราบว่าไปตกหล่นอยู่เสียที่ไหน ในจดหมายฉบับนี้อาจจะมีรายละเอียดเรื่องการสนับสนุน การพ่นสารเคมีกำจัดยุงด้วยก็ได้นะครับ) ข้อเสนอแนะของผมเกี่ยวกับเรื่องของการกำจัดยุงของกรมอนามัยนี้ก็คือ

1. โครงการกำจัดยุงนี้เป็นโครงการใหญ่ ระดับชาติและระดับโลกนะครับ ทางกระทรวงสาธารณสุขจะต้องผลักดัน ให้โครงการนี้สำเร็จเป็นโครงการระดับชาติให้ได้

2. เมื่อเป็นโครงการระดับชาติ ก็คงจะต้องเป็นโครงการซึ่งต้องผลักดันให้ได้รับการสนับสนุน และได้รับการอนุมัติ จากรัฐบาลด้วย ทำใหม่ คิดใหม่เรื่องยุงนี้ จะต้องเป็น “ทำใหม่ คิดใหม่ เรื่องใหญ่ กำจัดยุง” ด้วยนะครับ

3.โครงการกำจัดยุงระดับชาตินี้จะต้อง เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับทุกหน่วยงานของรัฐบาล รวมทั้งองค์กรเอกชนต่างๆ ด้วย กระทรวงมหาดไทยก็ต้องเกี่ยว สำนักงานสิ่งแวดล้อมก็ต้องเกี่ยว กทม. และเทศบาลทุกจังหวัดก็ต้องเกี่ยว กระทรวง ทบวง กรมทุกแห่งก็ดูเหมือนจะเกี่ยวไปหมด

(พูดถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขออนุญาตร้องเรียนสักนิดได้ไหมครับ สำนักงานท่อระบายนํ้า และบำบัดนํ้าเสียของ กทม. เมื่อไหร่จะจัดการเรื่องทำท่อนํ้าเสีย ซอยยนต์ย้อย โชคชัย 4 (82) เสียทีครับ ท่านบอกจะจัดการทำท่อนํ้าเสีย มาตั้งแต่สมัยผู้ว่าฯ กทม. คุณพิจิตต รัตตกุล แล้วครับ พอมาถึงสมัยคุณสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าฯ คนใหม่ ท่านก็ส่งคนมาดู แถมยังบอกว่า จะเริ่มงานก่อสร้างทำท่อตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน แต่มาจนบัดนี้ ก็ยังไม่มีวี่แววเลย นํ้าเน่า ยุงชุม เหลือเกินแล้วครับ คุณพลตำรวจโทอนันต์ ภิรมย์แก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บ้านท่านอยู่ถัดผมไป ไม่ทราบท่านทนนํ้าเน่ายุงกัดได้อย่างไร)

4. โครงการปราบยุงนี้ ท่านนายกฯ ทำใหม่ คิดใหม่ ครับ ถ้าท่านทำได้สำเร็จ เชื่อไหมครับ โครงการทุกอย่างที่จะช่วยให้ประ- เทศไทยเจริญก้าวหน้า รวมทั้งการฟื้นฟูจิตใจคนไทยทุกคน ก็จะสำเร็จตามไปด้วย

โครงการนี้เป็นโครงการที่ท้าทาย ทำใหม่ คิดใหม่ อย่างเหลือเกิน อย่าดูถูกยุงตัวเล็กๆ จะมีพิษสงไปได้อย่างไร เป็น อันขาด.
Copy right(c)2000 by Vacharaphol Co.,Ltd.
1 Viphavadirangsit Rd. Bangkok 10900 Thailand Tel.(662) 272-1030 Fax. (662) 272-1324

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น