ตั้งชื่อน่ากลัวนะครับ คอเน่า-ปอดเน่า นั้นเป็นยังไงกันแน่ ก็ตอนนี้ ต่อจากตอนที่แล้ว คือถึงเรื่องทอนซิลอักเสบ เรื่องสเตร็ป โทร้ท (STREP THROAT) แล้วก็ถึงเรื่องปอดบวม หรือนิวมอเนียไงเล่าครับ
ผมเรียกภาษาชาวบ้านเพื่อให้เข้าใจง่ายๆ เท่านั้นเองว่า คอเน่า-ปอดเน่า ทำไงดี
ขอย้อนไปถึงอาการอื่นๆ จากการเจ็บคอ เพราะติดเชื้อสเตร็ปนี้ว่า จะมีอาการเจ็บคอ คอแดง ตัวร้อนเป็นไข้ คลำดูใต้คางและข้างคอ จะพบว่าต่อมน้ำเหลือง และต่อมน้ำลายบวม อาการไข้นี้บางคนจะมีอาการหนาวสั่นด้วย และตอนนี้เป็นตอนที่อาการจากเชื้อ “ลูกประคำ” ที่ผมเรียกเล่นๆเมื่อตอนที่แล้ว จะเป็นสาเหตุร้ายแรงถึงทำให้เกิดโรคหัวใจหรือโรคไตได้ เขียนไว้อย่างนี้ในตอนที่แล้ว จำได้ไหมครับ
ผมจบไว้ตอนท้ายครั้งที่แล้วว่า ถ้าเป็นถึงขั้นนี้ ต้องทำอย่างไร ตอบสั้นๆ ไว้ก่อนต้องหาหมอแล้ว แต่การหาหมอของผมตอนนี้มีข้อแม้
ข้อแม้ของผมตอนนี้ก็คือว่า ถ้าคุณไปหาหมอตี๋ตามร้านขายยา เขาก็จะจ่ายยาเพนิซิลิน หรือยาแอนตี้ไบโอติค บางชนิดให้คุณ
ถ้าหากคุณไปหาแพทย์ สิ่งที่น่าสนใจก็คือ แพทย์ท่านก็จะสั่งยาแบบหมอตี๋ให้เหมือนกัน คือให้ยาปฏิชีวนะ หรือแอนตี้ไบโอติค และบางท่านก็จะให้ยาลดไข้ ยาแก้ไอ ยาแก้เจ็บคอควบมาด้วย
ข้อแม้ของผมก็คือ อย่าเชื่อหมอตี๋เป็นอันขาด ยาปฏิชีวนะนั้นสมัยนี้หากันได้ง่ายๆ และก็กินกันเป็นของว่าเล่นเหมือนกับกินขนมอย่างนั้นแหละ ผมเห็นว่าการใช้ยาปฏิชีวนะนั้น เป็นเรื่องใหญ่สำคัญอย่างเหลือเกิน เพราะมันเกี่ยวกับเชื้อโรคในตัวคุณ เขาควรจะศึกษาหรือตรวจในห้องแล็บให้แน่ว่าเชื้อในคอของคุณนั้นเป็นเชื้อ STREP แน่นอนหรือเปล่า ถ้าใช่แน่ การให้เพนิซิลินถูกต้อง หรือจะให้ปฏิชีวนะตัวอื่นแทนก็ได้ แต่เสร็จแล้วต้องติดตามเรื่องขนาดของยาที่ให้ ปริมาณของยา และผลของการใช้ยานั้น ต้องเช็กกันอย่างใกล้ชิด มิฉะนั้นแล้วให้ยาไป 2-3 วัน อาการดีขึ้น แล้วก็ไม่ทำอะไรต่อไป นึกว่าหายแล้ว เสร็จแล้วปรากฏว่า เชื้อโรคดื้อยา เชื้อมันสงบ หรือแอบไปซ่อนตัวที่ไหนในร่างกายเราชั่วคราว เสร็จแล้วมันฟื้นตัวขึ้นมาอีก แถมยังหลายพันธุ์แข็งแรงกว่าเก่า และถ้ามีเชื้อตระกูลเดียวกัน แต่คนละตัวมาผสมเข้าอีก คราวนี้แหละคุณเอ๋ย ภาษาอีสานเขาบอกว่า “ตายหยังเขียดอีหลี” เลย
เพราะฉะนั้น หมอตี๋เชื่อไม่ได้ เพราะจะ เกิดอันตรายเชื้อกลายพันธุ์เหมือนอย่าง ที่ว่านี้ จึงควรจะไปหาแพทย์ และก็ ต้องเลือกแพทย์ให้ดีด้วย แพทย์ชนิดที่ มองหน้าคุณเพียง 2 นาที พูดกับคุณ 2 ประโยค แล้วก็สั่งยา อย่างนั้นขอประทานโทษ คุณหมอท่านต่างๆด้วย เชื่อไม่ได้เหมือนกันครับ เพราะฉะนั้น ในกรณีที่พบแพทย์ ก็ต้องเลือกแพทย์ที่ท่านมีเวลาให้คุณ และท่านก็ ควรจะตรวจละเอียด ถึงขนาดที่ว่า เอาเชื้อในคอของคุณไปเพาะเชื้อตรวจดูที่แล็บด้วย อย่างนี้จึงจะไว้ใจได้
ผมมีข้อแม้อีกอย่างหนึ่งสำหรับท่านที่ป่วยเจ็บคอ คออักเสบ และทอนซิลอักเสบ ที่เป็นทอนซิล อักเสบนี้ สมัยก่อนเห็นมีแต่พวกเด็กๆ แต่สมัยนี้วัยรุ่นก็เป็นมาก หนุ่มสาวก็เป็นมากเช่นกัน พวกนี้มักจะเจอทอนซิลอักเสบรุนแรง คอเป็นหนอง ทอนซิลก็อักเสบเป็นหนองด้วย
เมื่อไปหาแพทย์ แพทย์ก็ให้ยาปฏิชีวนะตามแบบแผน คนไข้ก็หายได้ ชั่วครั้งชั่วคราว เสร็จแล้วก็เป็นทอนซิลอักเสบอีก เป็นๆ หายๆ อยู่ อย่างนี้ระยะยาว คนไข้บางคนผมเห็น เป็นทอนซิลอักเสบเรื้อรัง เป็นติดต่อกันได้เป็นเดือนๆ ก็มี
และก็แน่ละครับ หนีเรื่องปากเหม็น คอเหม็นในขั้นแรกไปไม่พ้น
ผู้ป่วยเหล่านี้ แพทย์มักจะให้ตัดต่อมทอนซิล และต่อมอดินอยด์ออกพร้อมๆกัน ทั้งนี้เพราะถ้าทอนซิลอักเสบ ต่อมอดินอยด์ซึ่งอยู่ด้านบนของ ลำคอก็มักจะอักเสบตามไปด้วย แพทย์ก็เลยให้ ตัดออกเสียเลยจะได้ไม่ทำความลำบากขึ้นทีหลัง (ท่านว่าของท่านอย่างนั้น)
ตรงนี้แหละครับ ที่ผมมีข้อแม้ หรือว่ากันจริงๆ ขอค้านเลยทีเดียวแหละว่า ไม่ควรผ่าตัดเอา ต่อมทอนซิลออก ที่ไม่อยากให้เอาออกก็เพราะ ต่อมทอนซิลเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของ IMMUNE SYSTEM หรือภูมิชีวิต
ต่อมทอนซิล และอดินอยด์นี้ ว่าที่จริงก็ต่อมน้ำเหลืองต่อมใหญ่ในปากคอของเรานั่นเอง หน้าที่ของต่อมน้ำเหลืองนั้นก็คือ ป้องกันและปราบปรามเชื้อโรคต่างๆ ที่จะผ่านช่องคอ ช่องปาก และรูทวารต่างๆ ในช่องปากของเรา เช่น ท่อจมูก ท่อลมหายใจ และหลอดลม เป็นต้น
ผมชอบเปรียบเทียบของผมง่ายๆ ว่า ต่อมน้ำเหลืองเหล่านี้ก็เปรียบเหมือนสถานีย่อยๆ หรือป้อมยามของตำรวจ ป้อมยามเหล่านี้มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ในท้องถิ่นบริเวณของป้อมยามนั้น
สมมติว่าป้อมยามนั้นอยู่แถวหน้าบ้านผม ซึ่งแต่ก่อนโจรผู้ร้ายมันก็สงบเรียบร้อยดี แต่อยู่ๆมาเศรษฐกิจไอเอ็มเอฟ มันรัดตัว แถมพวกติดยาบ้ามันก็เต็มเมือง โจรผู้ร้ายมันก็ขึ้นบ้านขึ้น เรือนข่มเหงชาวบ้านเป็นว่าเล่น ตำรวจตู้ยามก็นั่งกันเป็นเบื้อใบ้ ทำอะไรไม่ได้
เมื่อเป็นอย่างนี้ ท่านก็เลยยุบตู้ยามนั้นเสีย
นี่คือวิธีแก้หรือครับ ผมไม่เห็นด้วยเด็ดขาด รื้อตู้ยามทิ้งแล้ว พวกโจรผู้ร้ายมันก็สนุกสนาน ร่าเริงเป็นการใหญ่
ถ้าเป็นผมทำอย่างไร ผมจะเก็บตู้ยามไว้ เพราะอย่างน้อยถึงแม้ตู้ยามจะไร้สมรรถภาพ แต่อย่างน้อย พอผู้ร้ายมันเห็น มันก็ยังเกรงใจอยู่บ้าง
หลังจากนั้นก็ลองทะนุบำรุงกรมตำรวจเป็นการใหญ่ซีครับ แล้วก็ปรับปรุงตู้ยามเสีย ส่งตำรวจดีๆ มาประจำ แล้วก็ปรับปรุงตู้ยามและอุปกรณ์ตู้ยามให้ดีขึ้น อย่างนี้ตู้ยามก็จะมีประสิทธิภาพ ไม่ช้าโจรผู้ร้ายบริเวณนั้นก็จะหายไป
นี่คือวิธีที่ผมได้ใช้มาตลอด ได้แนะคนไข้ไปหลายคนแล้ว ว่าไม่ควรตัดทอนซิลออก คนไข้บางคนแพทย์ได้นัดวันเวลาจะผ่าตัดทอนซิลแล้ว แต่ก็เปลี่ยนใจหันมาใช้วิธีรักษาทอนซิลไว้ รักษาตัวให้แข็งแรง ในไม่ช้าก็แข็งแรง สุขภาพดีทุกอย่าง
(ตอนนี้ขอวงเล็บถึงคนไข้หลายคนที่ผมเคยแนะนำไป และได้ปฏิบัติผลดีมาแล้ว กรุณา จ.ม.มาเป็นหลักฐานหน่อยได้ไหมครับ เพราะผมทำอะไรไม่เคยเก็บหลักฐานไว้เลย เดี๋ยวใครจะหาว่าผมโกหก กรุณา จ.ม.มาที่ 36/31 หมู่ 13 โชคชัย 4 ลาดพร้าว กทม. 10230 หรือโทร. Fax. 0-2570-8273)
ทีนี้ท่านที่ไปหาแพทย์แล้ว ได้ยาปฏิชีวนะแล้ว อาการดีขึ้นแล้ว และท่านไม่ อยากจะตัดต่อมทอนซิลและ อดินอยด์ออก จะทำอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติตัวอย่างที่เคยแนะนำมาแล้วแหละครับ คือ
1. กินอาหารตามสูตรชีวจิต
2. ใช้วิตามินกลุ่ม แอนตี้ ออกซิแดนท์ช่วย ได้แก่ วิตามิน A 10.000 I.U. กิน 2 มื้อต่อวัน วิตามิน C 1000 มก. 3 มื้อต่อวัน วิตามิน D 1000 I.U. 2 มื้อต่อวัน วิตามิน E 400 I.U. 2 มื้อต่อวัน ZINE (สังกะสี) 50 มก. 1 เม็ดต่อวัน
3. ใช้ชีวิตประจำวัน กิน-นอน-พักผ่อน-ทำงาน-ออกกำลังกายให้ถูกต้อง พอดี และได้สัดได้ส่วนกัน
ไม่ยากเลย ลองทำดูเถอะ แล้วจะรู้สึกว่าจริงๆเป็นธรรมชาตินั้น ดีอย่างไร
ยังไม่จบ จะถึงโรคร้ายแรงคราวหน้า.
ไทยรัฐ ๑๖ ก.ย. ๔๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น