วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ปากเหม็น-ตัวเหม็น อาจถึงตาย (3)

ฉบับที่แล้วพูดถึงเพื่อนหญิงที่มีกลิ่นตัวเหม็นเขียว เธอเป็นคนแข็งแรง กล้ามเนื้อแขนและ ขาแข็งปั๋ง ออกจะดูเตี้ยเล็กน้อย คือสูง 5 ฟุตเท่านั้น

เธอเป็นคนผมดำแต่ค่อนข้างจะบาง สายตาสั้นใส่แว่นตาประจำ ผิวหนังค่อนข้างหยาบ และผิวซีด

เอาล่ะ บอกได้หรือยังกลิ่นเหม็นเขียวเกิดขึ้นได้อย่างไร ตอบได้ชัดเป๊ะเลย เกิดขึ้นเพราะ กินอาหาร ทะเลดิบๆ มากเกินไป

อาหารทะเลนั้นว่าที่จริงก็คือโปรตีนและไขมัน โปรตีนจากอาหารทะเล เป็นโปรตีนที่ดี มีท็อกซินน้อย

โปรตีนทุกชนิดนั้นเมื่อกินเข้าไปแล้วจะต้องแตกตัวเป็นแอมมิโน แอซิด (AMINO ACID) แอมมิโน แอซิดนี้ เขามีวิธีเปรียบเทียบง่ายๆ โดยเอาโปรตีนก้อนหนึ่ง เปรียบเป็นกำแพง เมื่อเรากะเทาะปูน ที่กำแพงออก จะมองเห็น อิฐเรียงกันเป็นก้อนๆ กำแพงนั้นคือโปรตีน อิฐที่เรียงเป็นก้อนๆ นั้น คือ แอมมิโน แอซิด ซึ่งตัวแอมมิโน แอซิด ที่เอื้อประโยชน์ต่อมนุษย์นั้นมีอยู่ด้วยกัน 22 ตัว ตัวหนึ่งซึ่งสำคัญมากคือ ไลซีน (LYSINE)

ไลซีนนี้ในเนื้อสัตว์ทุกชนิดเมื่อแตกตัวออกมาแล้วจะมีกลิ่นคาวมาก โดยเฉพาะปลานั้น ถ้าเป็นหนังปลาจะยิ่งคาวมากเป็นพิเศษ กลิ่นคาว ของไลซีนนี้ นอกจากจะได้จากปลา แล้ว ในไข่ขาวลองดมดูจะได้กลิ่น คาวคล้ายๆ กัน

เพื่อนหญิงของผมนั้นชอบกินปลาดิบๆ แน่ละปลาดิบจะกินให้อร่อย จะต้องกิน ทั้งหนังปลาด้วย ยิ่งดิบก็ยิ่งคาว

นอกไปจากนั้น เมื่อดูลักษณะของผมของเธอซึ่งค่อนข้างบาง ผสมกับสายตา ซึ่งสั้นต้องใส่แว่น แสดงว่าตับของเธอทำงานไม่ได้ดีนัก ตับจะต้อง สร้างน้ำย่อยออกมาย่อยโปรตีนด้วย ในเมื่อตับไม่ค่อยดี น้ำย่อยไม่ค่อยดี การย่อยปลา และอาหารทะเลดิบๆ ก็ทำไม่ได้ดีตามไปด้วย ของดิบและกลิ่นคาว เมื่ออยู่ในกระเพาะ และลำไส้ นานๆ ท็อกซินและกลิ่นคาว ก็ต้องถูกดูดซึม ไปตามตัว ไปตามเลือด ไปถึงปอด แล้วเข้าหัวใจ วนเข้าเส้นโลหิตไปตามตัว

กลิ่นคาวก็อยู่ในเลือด ในปอด ในเนื้อตัวตลอดเวลา ลมหายใจ ก็ย่อมจะต้อง มีกลิ่นคาว

นอกไปจากนั้น คุณเพื่อนหญิงของผมไม่ชอบกินผักและผลไม้ อาหารที่จะเข้าไป ช่วยลดกลิ่นคาวก็ไม่มีเลย

กลิ่นคาวออกมาจากตัวซ้ำๆ ซากๆ เช่นนี้แหละ ทำให้เกิดเหม็นเขียว และเมื่อมาผสม กับกลิ่นเหงื่อ กลิ่นผงซักฟอกจากเสื้อผ้า เลยออกมา เหม็นเขียวปนบูดๆ ชอบกล

ไชโย พิสูจน์ได้แล้ว ทฤษฎีง่ายๆ เกี่ยวกับไลซีนนี่เอง

แต่---แต่---แต่ แน่ใจหรือเปล่าว่าพิสูจน์ได้แล้ว

ก็ต้องพิสูจน์ซ้ำพิสูจน์อีก คือ ถ้าคิดว่าพิสูจน์หาสาเหตุได้ ก็หาวิธี มาแก้สาเหตุนั้น ถ้าแก้แล้วตัวหายเหม็น ก็แสดงว่า การพิสูจน์หาสาเหตุนั้น ถูกต้องแจ๋วแหววแล

เอาล่ะ ทีนี้ก็มาดูกันซิว่า การแก้ไขจะได้ผลหรือไม่ โปรแกรมการแก้ไขของผม มีอย่างไรหรือ

1. ผมขอให้เธอลดอาหารทะเลดิบลง ถ้ายังชอบกินปลาดิบอยู่ ก็ให้กินเพียงอาทิตย์ละครั้งเดียว อีกครั้งหนึ่ง ถ้าเป็นอาหารทะเล ก็ให้เป็นอาหารสุกทั้งหมด

2. ตกลงอาหารปลามีเพียง 2 ครั้งต่ออาทิตย์ เหลือนอกนั้นอีก 5 วัน ให้ใช้โปรตีนจากพืช คือพวกถั่วต่างๆ และเต้าหู้ (ข้อนี้ เธอไม่ค่อยเต็มใจ แต่ก็ยอมทำตาม)

3. ให้กินข้าวประมาณ 30-50% ข้อนี้เธอสั่นหัวปฏิเสธ บอกว่ากลัวอ้วน ผมว่าไม่อ้วน ถ้าเธอกินข้าวซ้อมมือ แทนข้าวขาว และตอนต้นให้กินเพียง 30% ก่อน ต่อไปให้เพิ่มเป็น 50%

4. ให้กินผักสดหรือสลัดผักสดทุกวัน และให้ดื่มน้ำคั้นจากผักสด สีเขียวทุกวันด้วย (ข้อนี้เธอปฏิเสธ เด็ดขาด ผมก็สำทับเด็ดขาด เหมือนกันว่า ข้อนี้สำคัญที่สุด เพราะกลิ่นต่างๆ แปลกๆ จะหายไป ก็เพราะคลอโรฟีลล์ สีเขียวจากผักนี่แหละ โอย! ยากเย็นเหลือเกิน กว่าจะให้ข้อนี้สำเร็จ ลุล่วงไปได้)

5. ถ้าทำดีท็อกซ์ได้ก็ขอให้ทำสักหนึ่งอาทิตย์เป็นอย่างน้อย ถ้าทำไม่ได้ ไม่เป็นไร

6. วิตามิน บีคอมเพล็กซ์ วันละเม็ดทุกวัน และดื่มน้ำ 6-8 แก้วทุกวัน

เอาละครับ ตอนนี้ขออธิบายสักนิดว่า ทำไมจึงตั้งสูตรแบบนี้

- สิ่งตกค้างจากการย่อยปลาและอาหารทะเล รวมทั้งกลิ่นคาวนั้น คือ ท็อกซิน ต้องกำจัด ท็อกซินทั้งเนื้อ ทั้งกลิ่น ให้ออกจากตัวให้ได้

- ตั้งระบบใหม่โดยเฉพาะระบบย่อยให้กับร่างกาย อาหารที่กินเข้าไป ควรจะมีหลากชนิด และมีความพอดี

- ให้ตัวช่วยดับกลิ่น คือ คลอโรฟีลล์ และบีคอมเพล็กซ์

- ใช้น้ำเป็นตัวช่วยในการระบายท็อกซินและยิ่งทำดีท็อกซ์ได้ จะยิ่งช่วยให้ การระบายท็อกซินดีขึ้นอีก

- ให้ออกกำลังกายเต็มที่จนเหงื่อโซมกาย ทำให้ท็อกซินยิ่งระบายออกยิ่งขึ้น

ก็คงจะอยากรู้ใช่ไหมครับว่า ผลของการปฏิบัติเป็นอย่างไร

ได้ผลครับ แต่ว่ากว่าจะได้ผลเต็มที่ก็ใช้เวลานานเกินกว่าที่ผมกะไว้ เพราะการเปลี่ยน จากคนไม่กินผัก มาเป็นคนกินผักนั้น ใช้เวลาจริงๆ เกือบสองเดือน แทนที่จะเป็นเดือนเดียวดังกะไว้

ผลสุดท้ายหรือครับ กลิ่นหายเด็ดขาด น้ำหนักลดลงด้วย รูปร่างกะทัดรัด สวยขึ้นกว่าเดิม

และตอนนี้มีแฟนถาวรแล้วครับ.
ไทยรัฐ 19 สค 44

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น