วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ปีใหม่กับโรคขย้อน

สารบบของการแพทย์ไทยคงจะไม่มีหรอกครับ “โรคขย้อน” ก็ไม่มีจริงๆนั่นแหละ แต่ผมเห็นอาการของโรคซึ่งเกิดจากการฉลองปีใหม่อย่างไม่บันยะบันยังแล้ว ก็เลยตั้งชื่ออาการของโรคให้มันสะดุดตาสะดุดใจเล่นๆว่า “โรคขย้อน”

ขอคุยกันล่วงหน้าตามประสาเพื่อนฝูงกันนะครับว่า อย่าฉลองปีใหม่กันจนลืมตัวเลยครับ ผมทราบดีว่าปีนี้เป็นปีที่ เราเครียดกันมากเหลือเกิน ความจริงเครียดกันทั่วโลกนั่นแหละ แต่เมืองไทยเรานอกจากจะเครียดกันด้วยเหตุการณ์ ของโลกซึ่งยังไม่ทราบเลยว่าการรบกัน ระหว่างกลุ่มผู้ก่อ การร้ายกับฝ่ายตะวันตกแล้วเหตุการณ์จะขยายออก ไปทั่วโลกหรือเปล่า นั่นก็คือเรื่องของโลกเราภายนอกประเทศ+แต่ภายในของเราก็ยังคงเครียดด้วยเรื่องเกี่ยวกับ เศรษฐกิจของประเทศ เรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งแม้แต่การกล่าวหาและการจับผิดกัน ยังไม่รู้เลยว่าเมื่อไรสภาพการณ์ทุกอย่างในเมืองไทยของเราจะดีขึ้น

แต่กระนั้นก็ดี พอมาถึงเทศกาลใกล้ปีใหม่ เมื่อไหร่ คนไทยผู้ไม่เคยทุกข์ร้อน ก็ดูเหมือนจะลืมเรื่องเดือดร้อนกันหมด สองสามวันมานี้รถติดกันเป็นบ้าอีกแล้วครับ และคงจะติดกันหนักจนถึงวันปีใหม่หรือหลังปีใหม่ ตอนนี้ใกล้วันคริสต์มาส คนไทยก็เริ่มจับจ่ายใช้สอยซื้อของขวัญกันแต่เนิ่นๆ รวมกันฉลองทั้งคริสต์มาสและปีใหม่ไปพร้อมๆ กันเลย

เรื่องการให้ของขวัญและฉลองปีใหม่นั้นเป็นการแสดงนํ้าใจซึ่งคนไทยลืมกันไม่ได้ นอกไปจากนั้นธรรมเนียมเรื่องการไปหาผู้หลักผู้ใหญ่ก็ดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในยามเศรษฐกิจตกตํ่า หรือภาษาชาวบ้านว่า ข้าวยากหมากแพง แต่การให้ของขวัญผู้ใหญ่กลับยิ่งมากขึ้น กลับกันกับสภาพของข้าวยากหมากแพง

ผมไม่ทราบจะไปแก้ไขธรรมเนียมอย่างไร ก็ได้แต่บ่นอยู่คนเดียวว่า รถมันติดเหลือเกิน แล้วตอนนี้ก็เห็นแต่ตำรวจจราจรออกเพ่นพ่านทั่วเมือง รถติดก็เดือดร้อนกันมากอยู่แล้ว ตำรวจยิ่งจับรถให้ตั๋วหรือเรียกเงินเรียกทองอย่างไรไม่ทราบ รถยิ่งติดมากขึ้น และก็ยิ่งเดือดร้อนมากกว่าเดิมเหลือเกินแล้วครับ

รถติด โรคเครียด โรคประสาท โรคจิตก็มากขึ้น เจ้าหน้าที่หลายบริษัทเอกชนได้เงินเดือนขึ้น และโบนัส เท่านั้นแหละครับ มีการเลี้ยงฉลองปีใหม่ ตั้งแต่ก่อนปีใหม่จะมาถึงเสียอีก และตอนนี้แหละ “โรคขย้อน” ที่ผมพูดประชดไว้แต่แรกก็กำลังระบาดเป็นการใหญ่

“โรคขย้อน” ก็คือโรคซึ่งเกิดจากการเลี้ยงปีใหม่กันอย่างไม่บันยะบันยัง ตัวสำคัญที่ทำให้เกิด โรคขย้อนก็คือ กินอย่างขนานใหญ่และดื่มกันอย่างขนานใหญ่ และไม่ใช่ กินกันวันปีใหม่ วันเดียวเท่านั้น แต่กินและดื่มกันหลายวันหลายมื้อก่อนหมดปีเก่าและ หลังวันปีใหม่ด้วย

มีหลายโรคครับ ที่อาการเหมือน “โรคขย้อน” และทุกโรคเป็นโรคที่เกี่ยวกับอาหารและ ระบบย่อยทั้งสิ้น ขอยกตัวอย่างเพียงโรคเดียวก่อนคือ โรคขย้อน เพราะท้องอืดท้องเฟ้อเหม็นเปรี้ยว ฝรั่งเรียกว่า HEARTBURN หรือ ESOPHAGEAL REFLUX

อาการที่เป็นก็คือรู้สึกร้อนท้องและหน้าอก อาการร้อนนี้ บางครั้งกระจายไปถึงต้นคอ

มีการขย้อนหรือกระอักออกมาที่ลำคอ มีรสเปรี้ยวหรือรสขม โดยเฉพาะเวลานอนหงายหรือ กำลังหลับอยู่จะขย้อนออกมามาก

ส่วนสำคัญที่ถูกกระทบมาจากอาการนี้ก็คือ หลอดอาหาร หรือที่เรียกว่า ESOPHAGUS ซึ่งเป็นส่วนต่อระหว่างลำคอยาวลงไปถึงกระเพาะอาหาร

มีความยาวประมาณ 10 นิ้ว หลอดอาหารมีหน้าที่สำคัญที่จะรับอาหารที่เคี้ยวละเอียด จากปากแล้วเป็นก้อน และกระเพาะอาหารซึ่งมีลักษณะเป็นกล้ามเนื้อยาว ก็จะรับอาหารซึ่งเป็นก้อนแล้วนี้ กระเดือกลงไปสู่กระเพาะ ที่ใช้คำว่า “กระเดือก” นี้ก็เพราะส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อของหลอดอาหารนี้เอง จะกระเดือกก้อนอาหารเป็นระลอกลงสู่กระเพาะ

ตรงปลายหลอดอาหารติดกับกระเพาะ จะเป็นหูรูด และตัวหูรูดนี้จะเป็นตัวป้องกัน ไม่ให้อาหารขึ้นกระเพาะย้อนกลับขึ้นไปถึงปาก

แต่ลักษณะของการขย้อนนี้จะเกิดขึ้นได้ เพราะกระเพาะเป็นกรดมาก และการเป็นกรดนี้เกิดขึ้นเพราะ การบูดของอาหารในกระเพาะ เมื่อบูดก็เกิดเป็นฟองหรือเป็นแก๊สดันนํ้าย่อยและอาหารขึ้นมาสู่ปาก และในบางครั้งยังไม่ทันเกิดการบูด แต่หูรูดของท่ออาหารเกิดหย่อนตัว ไม่ปิดหูรูด อาหารก็ขย้อนกลับขึ้นไปได้

ปกติอาการของขย้อนหรือ HEARTBURN นี้ไม่ร้ายแรงกระไรนัก ถ้าจะรักษาปริมาณอาหาร ให้อยู่ระดับพอดีๆ ไม่มากจนเกินไป อย่ากินเครื่องดองของเมา กระเพาะก็จะไม่เกิดการบูด การขย้อนก็จะไม่เกิดขึ้น

แต่ถ้าพฤติกรรมการกินของคุณผิดๆอยู่เสมอ ชอบกินอาหารไม่เลือกและดื่มเครื่องดื่มอยู่บ่อยๆ การบูดย่อมจะเกิดขึ้นได้ง่าย และถ้ารวมโอกาสพิเศษเข้าไปอีก อย่างเช่น การฉลองรับปีใหม่หลายๆ ครั้ง และก็กินและดื่มกันอย่างเต็มที่ อย่างที่ผมกลัวว่าจะเกิดขึ้นเหมือนทุกๆ ปีเช่นนี้ ก็น่ากลัวว่าการขย้อนนี้จะไม่เป็นธรรมดา แต่ อาจจะลามไปถึงเรื่องการเจ็บป่วย เกี่ยวกับระบบย่อยร้ายแรงอื่นๆ อีกได้

เอาการอักเสบซึ่งเป็นเรื่องเบาๆก่อน ถ้าคุณเกิดอาการขย้อนหรือ HEARTBURN อาจจะเป็นเพราะฉลองบ่อยๆ หรือไม่ฉลองก็ตาม ผนังที่เคลือบหลอดอาหาร ก็จะเกิดการอักเสบ เนื่องมาจากกรดในกระเพาะ

ถ้าการอักเสบเกิดบ่อยๆ และมีอาการเรื้อรัง หลอดอาหารก็จะมีเลือดออกมาได้ และการกลืนกินอาหาร ก็จะเป็นไปอย่างลำบากยากเย็น

พอมาถึงตอนนี้ก็ต้องตรวจกันอย่างละเอียดแล้ว เพียงแต่การตรวจอย่างเดียวผมว่าเราก็จะรู้สึก ไม่สบายใจ ไม่สบายกายเป็นอย่างมาก อย่างเช่นต้องกลืนแป้งแบเลี่ยมและถ่ายเอกซเรย์ หรือต้องส่องกล้องเข้าไป ในหลอดอาหารและกระเพาะด้วย อย่างนี้คุณก็จะรู้สึกไม่สบาย และกระอักกระอ่วนเอามากๆ ทั้งนี้เพียงเนื่องมาจากการที่เราฉลองปีใหม่กันมากไปหน่อยเท่านั้นเอง ไม่คุ้มกันเลยครับ กับการที่ต้องฉลองกันอย่างไม่บันยะบันยัง แล้วก็ต้องเจ็บตัวต่อกันไปหลายวัน

นอกไปจากนี้ พฤติกรรมอีกอย่างหนึ่งซึ่งจะทำให้การขย้อนของเราร้ายแรงมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือ ถ้าคุณเป็นนักสูบบุหรี่อยู่ด้วย การสูบบุหรี่จะทำให้หูรูดหลอดอาหารหย่อนคลาย และกล้ามเนื้อหูรูดมักจะไม่ทำงาน การขย้อนของคุณก็จะเป็นการเรื้อรังหายยากเสียจริงๆ ที่ว่าบุหรี่เป็นอันตรายต่อกระเพาะและหลอดอาหารนั้น เป็นเรื่องจริงเหลือเกินครับ

ทีนี้ถ้าบังเอิญการฉลองปีใหม่ของคุณเกิดการฉลองกันเพื่อปลอบขวัญกันอย่างเต็มที่ กินอย่างเต็มที่ ดื่มอย่างเต็มที่ ผสมกับคุณเป็นโรคขย้อนบ่อยๆ และสูบบุหรี่จัดด้วย ตอนนี้อาการเรื้อรังจากโรคขย้อน ก็กลายเป็นโรคถาวร การที่มีเลือดออกก็จะมีมากเป็นประจำ

ถ้าถึงตอนนี้ถ้าตรวจกันอย่างละเอียดก็อาจจะพบว่าคุณป่วยร้ายแรงกว่าการขย้อนธรรมดาๆเสียแล้ว บางคนถ้าเคราะห์ร้าย พฤติกรรมที่ผิดๆ หลายอย่างมาผสมพร้อมๆ กันเข้า อาการก็มากขึ้น และก็อาจจะลงเอย ที่มะเร็งหลอดอาหารหรือกระเพาะอาหารก็ได้นะครับ

ฉบับปีใหม่นี้ ของขวัญที่ผมจะมอบให้แก่คุณๆเพื่อนฝูงที่รักกัน เป็นห่วงกัน โดยเฉพาะแฟนๆ ที่อ่านคอลัมน์นี้เป็นประจำก็คือ อย่าฉลองปีใหม่กันจนเพลินลืมตัวไปก็แล้วกันนะครับ

ฉลองเงียบๆอวยพรกันในครอบครัวที่รักของเราก็น่าจะพอ คุณที่ชอบสูบบุหรี่ก็เลิกสูบบุหรี่ เป็นของขวัญสำหรับตัวเองเสีย

กินอาหาร 3 มื้อ แต่พอดีๆอย่าบรรจุมากไปจนล้นกระเพาะ ก่อนนอน 2-3 ชั่วโมง อย่ากินอะไรเข้าไปก่อนนอนเลย จะช่วยลดกรดในกระเพาะได้

ถ้ากินยาเป็นประจำ ก็ลองสังเกตดูว่ายาเหล่านั้น จะเป็นอันตรายต่อระบบย่อยของคุณหรือไม่ เช่น ยาคุมกำเนิด ยาแก้แพ้ ยาแก้หอบหืด ยาโรคหัวใจ เป็นต้น ถ้าต้องกินยาเหล่านี้อยู่ก็อย่าไป ฉลองปีใหม่เลย อยู่บ้านฉลองให้ตัวเองและครอบครัวดีกว่า

ด้วยความรักและห่วงใยจริงๆ ครับ.

ไทยรัฐ ๑๖ ธ.ค.๔๔ ปีใหม่กับโรคขย้อน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น