วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ปากเหม็น-ตัวเหม็น (14) ตอนนี้เป็นตอนสรุปแล้วครับ

ดังที่เรียนให้ทราบไว้แล้ว 2-3 ครั้งว่า ผมเขียนเรื่องปากเหม็น-ตัวเหม็น ในระหว่างที่ กำลังเดินทาง เพราะฉะนั้น การสรุปข้อเขียนแต่ละตอนไว้ก่อนนั้น จึงทำได้ไม่สะดวก แต่ได้ตั้งใจไว้ว่า เมื่อกลับมาถึงเมืองไทยแล้วก็จะสรุปให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียเลย

แต่ก่อนที่จะมาถึงตอนสรุปตอนนี้ ก็ปรากฏว่ามีท่านผู้อ่านหลายท่าน จ.ม.มารอผมอยู่มากมาย ส่วนมากที่ท่านถามมามักจะถามว่า ผมทำงานอยู่ที่ไหน จะมาขอพบเพื่อให้ผมรักษา

ผมเรียนให้ทราบก่อนครับว่า ผมไม่ได้รับรักษาครับ แต่พอจะแนะนำและให้คำปรึกษาได้ และได้ตอบเป็นส่วนตัวไปหลายท่านแล้ว ขณะเดียวกัน ก็ขอเรียนชี้แจงว่า ที่เขียนถึงอาการป่วยต่างๆ นั้น ไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ท่านมาพบผมเพื่อขอให้รักษา แต่เขียนไปเพื่อให้ความรู้ เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ ของท่าน ให้ท่านรู้จักตัวเอง และให้รู้จักด้วยว่า ท่านสามารถจะดูแลตัวเองได้ และขอแนะนำหัวข้อต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ท่านหัดสังเกตและดูแลตัวเองได้ดังต่อไปนี้

1. สาเหตุของการมีกลิ่นปากเหม็น ลมหายใจเหม็น และตัวเหม็นมีสาเหตุมากมาย ผมจึงได้แนะนำว่า ถ้าหากท่านมีอาการเหม็นจากตัวเองดังกล่าวแล้ว ก็อย่าหยุดอยู่แต่เพียงว่า เราปากเหม็น ลมหายใจเหม็น หรือตัวเหม็นเท่านั้น

แต่ให้มองลึกกว่านั้นลงไปอีก มองไปหาสาเหตุแท้จริงให้ได้ อย่างเช่น ปากเหม็น ก็ต้องมองไปถึงสาเหตุที่อาจจะทำให้ปากเหม็น ฟันเสีย ฟันเน่าหรือเปล่า เหงือกบวมอักเสบบ่อยๆ หรือเปล่า ลิ้นเป็นแผลสกปรกหรือเปล่า คอเจ็บอักเสบบ่อยๆหรือเปล่า ต่อมทอนซิลอักเสบหรือเปล่า เหล่านี้เป็นต้น

อย่ามองแต่เพียงว่า เรามีเศษอาหารตกค้างในปาก ปากเราสกปรก จึงมีกลิ่นเหม็น อย่ามองแต่เพียงแค่นั้น เมื่อพบสาเหตุที่แน่นอนแล้ว ก็ไปหาแพทย์

เพื่อให้รักษาแก้สาเหตุที่แน่นอนนั้นให้ได้ กลิ่นเหม็นก็จะหายในที่สุด

2. ในกรณีที่ทราบสาเหตุแน่นอนว่า เกิดจากระบบใดระบบหนึ่งของร่างกายผิดปกติ และ ความผิดปกตินั้นเกิดขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ใช่การ ผิดปกติที่ร้ายแรง อย่างเช่นระบบย่อย (DIGESTIVE SYSTEM) ซึ่งถ้าพูดกันแบบภาษาชาวบ้าน ก็คือเรื่องของท้องไส้ กินอาหารผิดปกติ อาหารรสจัดเกินไป ดื่มเหล้าดื่มเบียร์มากเกินไป เกิดอาการบูด เรอ เหม็นเปรี้ยว ท้องอืดท้องเฟ้อ แน่นท้อง ในกรณีอย่างนี้ ปากก็จะเหม็น ลมหายใจก็จะเหม็น ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

2.1 ควรจะแก้เรื่องปากเหม็น-ลมหายใจเหม็น พร้อมกับแก้อาการผิดปกติของระบบย่อยไปพร้อมๆกัน

2.2 แก้ระบบย่อยผิดปกติด้วยการหยุดกินอาหารชั่วคราว (หนึ่งมื้อหรือสองมื้อ) แล้วใช้ยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ในกรณียาแก้ท้องอืดนี้ ถ้าเคยกินชุดปัจจุบัน (ยาลดกรด-ยาธาตุ ฯลฯ) ไม่ได้ ผลดีนัก อาจจะลองยา สมุนไพร ซึ่งได้รับการจดทะเบียนยาแล้ว เช่น ขมิ้นชัน ยาธาตุบรรจง ดูบ้างอาจจะได้ ผลดีกว่า

2.3 หลัง จากอดอาหารหนึ่งหรือสองมื้อ และอาการเป็นปกติแล้วให้เปลี่ยนอาหารเป็นอาหารอ่อน ตามสูตรชีวจิต อาหารอ่อน อย่างเช่น ข้าวต้ม-แกงจืดผัก เต้าหู้ หรือจับฉ่าย ผักต่างๆต้มเปื่อย เป็นต้น

2.4 ให้ลองทำดีท็อกซ์ตอนตื่นนอนเช้ามืด ติดต่อกันประมาณ 5 วัน

2.5 ดื่มน้ำคั้นจากผัก คือ น้ำเซเลอรี่ (ขึ้นฉ่ายฝรั่ง) หนึ่งแก้ว/หนึ่งวัน สลับกับน้ำฝรั่ง หรือน้ำใบบัวบก หนึ่งแก้ว/หนึ่งวัน น้ำคั้นจากผักเหล่านี้จะมีสารสีเขียวหรือคลอโรฟีลล์ ซึ่งจะเป็นตัวล้างกลิ่นต่างๆ ในท้องไส้ได้ดี และถ้ามีแผลในกระเพาะ ลำไส้ คลอโรฟีลล์จะช่วยให้การอักเสบจากแผลดีขึ้นด้วย

2.6 ให้กินยาถ่านอัดเม็ด (CHARCOAL) ประมาณ 3-5 วัน มื้อละ 2 เม็ด 3 เวลา ยานี้จะช่วยลดกรด ลดแก๊ส และแก้อาการท้องเดินได้ด้วย ถ่านอัดเม็ดนี้มีคน จ.ม.มาถามกันหลายคนแล้วว่าคืออะไร มีขายที่ไหน ก็ขอบอกเป็นเลาๆว่า เนื้อแท้ของมันก็คือ ถ่านป่นอัดเป็นเม็ด มีขายตามร้านขายยาทั่วไป จริงๆนั้นมีชื่อยี่ห้อยาหลายยี่ห้อมากมาย แต่ผมต้องขอตัวที่จะไม่บอกชื่อยี่ห้อ เพราะถ้าบอกยี่ห้อหนึ่งยี่ห้อใดไปโดยไม่บอกยี่ห้ออื่นๆด้วย ก็จะกลายเป็นเลือกที่รักมักที่ชังไป

2.7 ในขณะเดียวกัน ก็น่าจะใช้ น้ำเกลือ อุ่นๆ ล้างคอ และกลั้วคอตอนเช้า และตอนกลางวัน วันละ 3-5 ครั้ง พร้อมๆ กันไปด้วย ถ้าอยากจะหายสำเร็จรูป เพราะขี้เกียจผสมน้ำเกลือ และต้มน้ำเกลือ จะลองหายาบ้วนปากชนิดที่พอเชื่อถือได้ มาลองใช้ดูบ้างก็คงได้ ขออภัยที่ไม่บอกยี่ห้อด้วยครับ

3. กรณีที่เมื่อตรวจหาสาเหตุกันอย่างจริงจังแล้ว ปรากฏว่า พบว่าเป็น เพราะมีโรคเรื้อรัง หรือโรคร้ายแรง อย่างเช่น เกี่ยวกับระบบย่อย ปวดท้องอย่างรุนแรง มีแผลในกระเพาะ ลำไส้ คลื่นไส้ อาเจียนตลอดเวลา หรือตรวจพบว่าเป็นมะเร็งที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบย่อย

หรือจากระบบหายใจ พบว่าเป็นมะเร็งในช่องปากหรือที่ปอด หรือที่โพรงจมูก เป็นต้น

ตัวอย่างเหล่านี้ สรุปได้แน่นอนว่า สาเหตุปากเหม็น หายใจเหม็น ตัวเหม็นเหล่านี้ไม่ใช่เกิด จากกลิ่นเหม็นธรรมดา แต่เกิดจากโรคร้ายแรงหรือโรคเรื้อรังเหล่านั้นเป็นต้นเหตุ

ถ้าเป็นเช่นนี้ อย่ามัวเสียเวลาไปหาทางแก้ปากเหม็น หายใจเหม็น ตัวเหม็น แต่เพียงอย่างเดียวเลยครับ แต่ขอให้ไปหาแพทย์เฉพาะทางเกี่ยวกับโรคร้ายแรงหรือเรื้อรังต่างๆ โดยตรงทันที

ต้องแก้ที่โรคซึ่งเป็นต้นเหตุโดยตรงนั้นเสียก่อน แล้วปากเหม็น-ลมหายใจเหม็น และตัวเหม็น ก็จะหายไปเองอย่างแน่นอน

ก็อยากจะขอสรุปเรื่องปากเหม็น ลมหายใจเหม็น ตัวเหม็น แต่เพียงแค่นี้ก่อน แต่ยังไม่ได้จบไปเลย อย่างเด็ดขาดนะครับ ท่านที่ยังมีปัญหาค้างคา กรุณาติดต่อทาง FAX หมายเลข 0-2570-8273 ได้ครับ

ขอแถมสำหรับการกระแหนะกระแหนของบางท่านบางคน (แพทย์) ว่า ผมไม่ได้เป็นแพทย์ แต่ทำไมจึง (บังอาจ) มาเขียนเรื่องเกี่ยวกับแพทย์ ขอเรียนว่า

1. จริงครับ ผมไม่ใช่แพทย์ แต่ไม่ได้ หมายความว่า ผมไม่รู้เรื่องแพทย์ ผมเรียนเรื่องเกี่ยวกับ การแพทย์ พื้นฐานของการแพทย์ ปัจจุบัน และเรียนเรื่องสำคัญของการแพทย์ทางเลือกด้านอื่นๆ มามากพอสมควร มากจนแน่ใจว่าสามารถจะสอน “ท่าน” ที่ชอบกระแหนะกระแหน ผมลับหลังได้

2. นอกจากจะได้ร่ำเรียนศึกษามามากจนแน่ใจในความรู้ของตนเองแล้ว ยังได้ปฏิบัติงานใน ด้านการรักษา พยาบาลมานานนับเป็นสิบๆ ปี ทั้งในต่างประเทศและในสหประชาชาติในฐานะ ผู้เชี่ยวชาญ

3. สิ่งที่ผมเขียนและเผยแพร่ไปนั้น ได้ พยายามหลีกเลี่ยงเรื่องการแพทย์ปัจจุบัน แต่ได้ เน้นในเรื่องการแพทย์ทางเลือก และการแพทย์แบบ ผสมผสาน ซึ่งผมเป็นคนแรกที่ได้นำความรู้ด้านนี้ มาใช้ในเมืองไทยเมื่อเกือบ 20 ปีมาแล้ว

เพราะฉะนั้น ท่านผู้อ่านสบายใจได้ว่า เรื่องต่างๆ ที่ได้เขียนและแนะนำไปนั้น ไม่มีข้อไหน-เรื่องไหนผิดความจริง และผิดพื้นฐานด้านวิชาการแน่นอน.

ไทยรัฐ ๔ พ.ย. ๔๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น