กลับมาแล้วครับ เลมอนฟาร์ม
เมื่อวันเสาร์ที่แล้วมา มีพิธีเปิด เลมอนฟาร์ม สาขาแจ้งวัฒนะ ขึ้นใหม่ ที่แจ้งวัฒนะนี้จะเป็นสำนักงานใหญ่ของเลมอนฟาร์มทั้งหมดด้วย
ท่านสมาชิกสหกรณ์เลมอนฟาร์มคงจะจำได้ว่า เลมอนฟาร์ม 2 แห่ง ซึ่งกิจการกำลังเจริญงอกงามเป็นอย่างดี ต้องปิดกิจการย้ายจากสถานที่เก่าไป ย้ายออกทั้งๆ ที่กิจการกำลังดี ฟังดูออกจะไม่มีเหตุผลเพียงพอ แต่เรื่องเบื้องหลังทั้งหมด ไม่เหมาะที่จะเอามาพูดกันในที่นี้
ฉะนั้นขออนุญาตแจ้งข่าวแต่เพียงว่า เลมอนฟาร์มได้เปิดสาขาและสำนักงานใหญ่ ขึ้นใหม่แล้วที่แจ้งวัฒนะ (เยื้องๆ กับองค์การโทรศัพท์ฯ)
และผมขอถือโอกาสนี้ประชาสัมพันธ์ให้ กับกิจการของเลมอนฟาร์มด้วย ผมไม่เคยเขียนประชาสัมพันธ์ให้ใครๆ มาก่อน เพราะเกรงว่าจะถูกกล่าวหาว่ามีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจนั้นๆ
แต่เลมอนฟาร์มเป็นกิจการแบบสหกรณ์ ซึ่งหมายความว่าดำเนินงานโดยมีประชาชนเป็นผู้ถือหุ้นและเป็นเจ้าของ เมื่อมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าที่ได้นั้นก็จะกลับคืนไปสู่ผู้ถือหุ้น และข้อสำคัญ เป้าหมายของสหกรณ์เลมอนฟาร์มมุ่งที่จะส่งเสริมชุมชนผู้ผลิตของชาวบ้าน รายได้ที่ได้มาจึงเท่ากับไปส่งเสริมกิจการและภูมิปัญญาของชาวบ้านด้วย
จุดนี้เป็นจุดสำคัญที่สุดของสหกรณ์เลมอนฟาร์ม ท่านสมาชิกที่สนใจการทำงานของเลมอน-ฟาร์ม หากติดตามกลุ่มหนุ่มๆ สาวๆ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ ไปดูการทำงานของหนุ่มๆ สาวๆ เหล่านี้ จะเข้าใจได้ทันทีว่า การทำงานแบบนี้ต้องการการทำงานที่มีนํ้าใจหรือมี SPIRIT
ถ้าท่านได้เห็นหนุ่มๆ สาวๆ จากเลมอนฟาร์มเข้าถึงลุงป้าน้าอาของเกษตรกร ไปนั่งพับเพียบคุยกับลุงป้าน้าอาเหล่านี้ ช่วยเขาทำงานบ้าง ช่วยแนะนำวิธีคัดสินค้า ห่อสินค้าให้สะอาด ให้ดูกระจุ๋มกระจิ๋มน่ารักบ้าง จนกระทั่งสินค้าเหล่านั้น ได้มาวางบนหิ้งบนชั้นอย่างสวยงามเป็นที่น่าภาคภูมิใจนั้น เป็นเรื่องที่ยากเย็น ต้องใช้ความเพียรพยายาม และความอดทนเพียงไร และ ข้อสำคัญก็คือ ได้แบ่งปันนํ้าใจระหว่างผู้ผลิต-คนกลาง กับเกษตรกร และผู้บริโภคอย่างใกล้ชิดสนิทสนมเพียงไร
สายสัมพันธ์เช่นนี้ แหละคือหัวใจและการทำงานของเลมอนฟาร์ม
โดยเหตุนี้เมื่อท่านสมาชิกไม่เห็นรายงานแถลงผลงานของเลมอนฟาร์ม โปรดอย่าประหลาดใจ ถ้าจะเห็นการเน้นนโยบายของเลมอนฟาร์ม กล่าวว่า “เลมอนฟาร์มสนับสนุนนโยบายสุขภาพแห่งชาติ โดยร่วมพัฒนาอาหารธรรมชาติส่งเสริมสุขภาพ และการเชื่อมโยงช่วยเหลือกัน ระหว่างผู้บริโภคและเกษตรกรผู้ผลิต เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเองและสุขภาพของสังคม”
เอาละครับ ตอนนี้ขอพูดถึงเรื่องอาหารธรรมชาติก่อน เรื่องนี้เรื่องเดียวก็เป็นเรื่องใหญ่ อย่างเหลือเกิน จนกระทั่งแทบไม่มีเวลาไป ทำงานอื่นๆ ได้สำเร็จแล้ว
ปัญหาสำคัญของคนไทยสมัยนี้ก็คือ เรากำลังใช้ชีวิตแบบฆ่าตัวตายผ่อนส่งอยู่ตลอดเวลา อาหารที่เรากินอยู่ทุกวันนี้เต็มไปด้วย “สารพิษ” ซึ่งดูๆ ไปแล้ว ผู้บริโภคไม่มีทางเลือกเอาเสียเลย ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าอาหารเหล่านั้นปนเปื้อนไปด้วยสารพิษ แต่ก็ต้องกิน เพราะถ้าไม่กิน เราก็ต้องอดตายท่าเดียว
กรรมวิธีที่ผลิตอาหารให้เรากินนั้น เริ่มต้นตั้งแต่การเพาะปลูก มาจนกระทั่งมาถึงการบรรจุหีบห่อนั้น ทุกขั้นตอนเราจะหนีสารพิษไปไม่พ้น เราเจอ ปุ๋ยเคมีในการเพาะปลูก เมื่อเพาะปลูกเริ่มงอกงามขึ้นมา เราก็เจอยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืชนอกไปจากนั้นเดี๋ยวนี้มีศัตรูตัวใหม่ คือเมล็ดพืชซึ่งผ่านการตัดต่อยีน (GMOs) นำมาเพาะปลูกอย่างเงียบๆ ให้เราบริโภคโดยที่เราไม่รู้ตัวสักนิดว่ากำลังถูกเขาหลอกให้ฆ่าตัวตายอยู่
เรื่อง GMOs นี้กำลังมีนักวิชาการที่ขายตัว ขายวิญญาณ ออกมาเต้นแร้งเต้นกาเป็นนายหน้าประกาศชักชวนว่า “กินเข้าไปเถิดๆ ปลอดภัย ไม่มีอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น ข้าพเจ้าขอเอาเกียรติ (ปลอมๆ) เป็นประกัน”
หลุดจากขั้นตอนการเพาะปลูกเข้ามาถึงการปรุงอาหาร เราก็เจอภัยจากการปรุงอาหาร การใช้ยากันบูดกันเสีย (PRESERVATIVE) ยาตบแต่งสีสันและรสชาติ (ADDITIVE) แล้วยังเจอภัยจากผงชูรสจากการปรุงแต่งรสจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด หวานจัด เผ็ดจัด อีก
และก็ยังไม่พอ หลุดจากขั้นตอนนี้แล้ว ก็ยังเจอการบรรจุหีบห่อที่ไม่ปลอดภัย สกปรกมีเชื้อโรค แถมอาหารบางอย่างยังแหลกเหลว และเสีย-บูด หลังการบรรจุห่อแล้วเพียงไม่กี่วันอีก
พอจะมองเห็นไหมครับว่าเรื่องการจัดทำอาหาร ที่เป็นธรรมชาติอย่างเดียวเท่านั้น ก็เป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญเพียงไร ที่จะผ่านอุปสรรคอาหารอันอุดมไปด้วยสารพิษนี้ได้
หลักเกณฑ์ข้อแรกและข้อที่สองของเลมอนฟาร์มในการคัดเลือกอาหารจึงเป็นดังนี้ คือ
1. ส่งเสริมและคัดเลือกอาหารและพืชผักเกษตรธรรมชาติ (ORGANIC) เป็นอันดับแรก
2. อาหารที่คงคุณค่าตามธรรมชาติ ปรุงแต่งน้อยและมากคุณภาพ แบบ HOME MADE
เฉพาะข้อแรก หาพืชผักธรรมชาติมาขายที่ร้านอย่างเดียวก็งานหนักหนาสาหัสมากแล้วนะครับ เพราะเลมอนฟาร์มปลูกผักเองไม่ได้ ต้องไปชักชวนชาวบ้านไปตั้งกลุ่มเกษตรธรรมชาติ ซึ่งเมื่อชาวบ้านอุตส่าห์ผลิตผลิตผลธรรมชาติ ตามคำชักชวนขึ้นมาได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ การขนส่ง และการหาตลาดจำหน่ายให้แก่ชาวบ้าน การจะทำงานชิ้นนี้ให้ได้ต้องใช้การลงทุนสูง และความพยายามอดทนสูง
อาหารบางอย่างของเลมอนฟาร์มจึงมีราคาสูงกว่าตลาดทั่วไปอยู่บ้าง แต่นั่นไม่ใช่เพราะ เลมอนฟาร์มต้องการแสวงหากำไร แต่เพราะต้นทุนสูง และภาระในการเลี้ยงดูแลชาวบ้านผู้ผลิตนั้น จำเป็นต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก
ที่ดูแล้วเกิดความมั่นใจสำหรับผู้บริโภคอีกอย่างหนึ่งก็คือ เป้าหมาย 5 ปลอด และ 5 หลีกเลี่ยง ของเลมอนฟาร์ม
5 ปลอด คือ 1. ปลอดยาฆ่าแมลง/ยาฆ่าหญ้า 2. ฟอร์มาลิน 3. บอแรกซ์ 4. ดินประสิว 5. สีย้อมผ้า
5 หลีกเลี่ยง 1. ผงชูรส 2. วัตถุกันเสีย 3. น้ำตาล/แป้งขัดขาว 4. ฮอร์โมนเร่ง 5. GMOs
ในเรื่องฟอร์มาลินนั้น ผมเป็นห่วงอยู่มาก เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ว่าแม่ค้าเล็ก พ่อค้าใหญ่ ก็ใส่ฟอร์มาลิน ปู ปลา หอย กุ้ง ก็มีแช่ฟอร์มาลิน
ผมคุยกับแผนกปลาของเลมอนฟาร์ม เขาเล่าให้ฟังว่า มีปลาของตัวเอง จับปลาได้เท่าไหร่ ก็มาขายสดๆ ไม่ได้แช่ฟอร์มาลินเลย
ฝากข้อที่น่าคิดไว้นิดหนึ่งนะครับ เลมอนฟาร์มเป็นสหกรณ์ ไม่ใช่ธุรกิจหากำไร ถ้าเราช่วยกันเป็นสมาชิกให้มากขึ้น ราคาก็จะถูกลง และกิจการเพื่อสมาชิกและสังคมก็จะทำประโยชน์ได้เต็มที่มากยิ่งขึ้น สำนักงานใหญ่เลมอนฟาร์ม แจ้งวัฒนะ โทร. 575-2222 ครับ.
00000
ข่าวกิจกรรมชีวจิต
กิจกรรมรำตะบองและออกกำลังกายสำหรับ ชุมชนที่ ร.ร.ชลประทาน (ข้างวัดชลประทาน) ปากเกร็ด ต้องงดตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขออภัยด้วย
ถ้ามีโรงเรียนวัด หรือสถานที่สาธารณะแห่งใด ต้องการให้ชมรมชีวจิตไปจัดกิจกรรมเพื่อชุมชน กรุณาแจ้งมาที่ โทร.570-8220 หรือ FAX 570-8273 ครับ เราไปช่วยจัดให้ฟรีครับ.
ไทยรัฐ ๘ ก.ค. ๔๔
คัดลอกมาจาก http://www.geocities.com/thatboon/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น